ไม่อยากรดน้ำหญ้าจริง และไม่ชอบพื้นซีเมนต์ ใช้หญ้าเทียมได้ไหม
หากคุณกำลังมองหาวิธีตกแต่งพื้นที่รอบบ้านให้ดูสดชื่น เขียวขจี เหมือนมีธรรมชาติอยู่ใกล้ตัว แต่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการดูแลหญ้าจริง เช่น การรดน้ำ ตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย หรือแม้แต่การป้องกันศัตรูพืช รวมถึงรู้สึกไม่ถูกจริตกับพื้นซีเมนต์ที่ดูแข็งกระด้าง ไม่มีชีวิตชีวา บทความนี้จะชวนคุณมาทำความรู้จักกับทางเลือกที่น่าสนใจอย่าง หญ้าเทียม ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เน้นความสะดวกสบาย แต่ยังคงได้สัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติในแบบที่เรียกว่า กรีนเนอรี่ วิว ที่แท้จริง
หญ้าเทียมคืออะไร
หญ้าเทียม (Artificial Grass หรือ Synthetic Turf) คือวัสดุที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับหญ้าจริง ทั้งในแง่ของสี ลักษณะใบ และความรู้สึกเมื่อสัมผัส ทำจากเส้นใยพลาสติก เช่น โพลีเอทิลีน (PE), โพลีโพรพิลีน (PP) หรือไนลอน (Nylon) ติดตั้งลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ โดยมีทั้งแบบสำหรับตกแต่งสวน, สนามเด็กเล่น, พื้นที่รอบสระว่ายน้ำ ไปจนถึงสนามฟุตบอล
- หญ้าเทียมเหมาะกับใคร
- เจ้าของบ้านที่ไม่มีเวลารดน้ำหรือดูแลสวน
- คนที่ต้องการบรรยากาศ กรีนเนอรี่ โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมาก
- ผู้ที่ไม่ชอบความแข็งกระด้างของพื้นซีเมนต์
- ผู้ที่อยากสร้างมุมพักผ่อนที่ดูสบายตา เช่น ลานหลังบ้าน ระเบียง หรือดาดฟ้า
- เจ้าของคอนโดหรือทาวน์โฮมที่มีพื้นที่จำกัด แต่ยังอยากมีพื้นที่สีเขียว
- ผู้สูงอายุหรือครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ต้องการพื้นผิวที่ปลอดภัยกว่าพื้นแข็ง
ข้อดีของการใช้หญ้าเทียม
ไม่ต้องดูแลมาก
ไม่ต้องรดน้ำ ตัดหญ้า หรือพรวนดิน ประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมือง
เขียวตลอดปี
หญ้าเทียมให้สีเขียวสดอยู่เสมอ ไม่แห้งเหี่ยว ไม่เปลี่ยนสีตามฤดูกาลหรือสภาพอากาศ
ใช้งานได้หลากหลาย
ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสวน, ลานบ้าน, ทางเดิน, ดาดฟ้า, ห้องเล่นเด็ก หรือมุมทำงาน
ดูดี
หญ้าเทียมสามารถสร้างบรรยากาศกรีนเนอรี่ วิวที่น่ามอง สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและน่าอยู่
ปลอดภัย
หญ้าเทียมคุณภาพดีจะมีความนุ่ม ลดการกระแทก เหมาะกับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ
ป้องกันฝุ่นและโคลน
หลังฝนตก หญ้าจริงมักเลอะเทอะ แต่หญ้าเทียมไม่มีปัญหาเรื่องดินเปียกหรือโคลนสกปรก
ติดตั้งรวดเร็ว
เมื่อเตรียมพื้นเรียบร้อย สามารถติดตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ข้อเสียของหญ้าเทียม
ความร้อน
หญ้าเทียมอาจดูดซับความร้อนจากแสงแดด ทำให้รู้สึกร้อนเมื่อเดินเท้าเปล่า โดยเฉพาะในหน้าร้อน
ไม่ดูดซับน้ำ
หากระบายน้ำไม่ดี อาจเกิดน้ำขังหรือกลิ่นอับได้ ควรเลือกแบบที่มีรูระบายน้ำ และติดตั้งอย่างถูกต้อง
อายุการใช้งาน
หญ้าเทียมคุณภาพดีจะอยู่ได้ประมาณ 5–10 ปี จากนั้นอาจเริ่มซีด หรือเส้นใยเสื่อม
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง
ถึงแม้จะประหยัดในระยะยาว แต่ต้นทุนเริ่มต้นสำหรับวัสดุและการติดตั้งอาจสูงกว่าการปลูกหญ้าจริง
ไม่ใช่ธรรมชาติแท้ๆ
สำหรับบางคน หญ้าเทียมอาจให้ความรู้สึกไม่เหมือนธรรมชาติ และขาดกลิ่นอายของดินหรือพืช
วิธีการติดตั้งหญ้าเทียมอย่างถูกต้อง
การติดตั้งหญ้าเทียมจะต้องเตรียมพื้นผิวให้เรียบและมีการระบายน้ำที่ดี เพื่อป้องกันปัญหาน้ำขังและกลิ่นอับในอนาคต ขั้นตอนการติดตั้งโดยทั่วไปประกอบด้วย
เตรียมพื้นที่
ขุดหน้าดินลึกประมาณ 5–10 ซม. (หากติดตั้งบนพื้นดิน)
ปรับพื้นให้เรียบ หากพื้นเป็นซีเมนต์ ให้ทำความสะอาดให้หมดฝุ่น
- วางวัสดุรองพื้น
- เททรายถมพื้น แล้วบดอัดให้แน่น
- วางแผ่นตาข่ายพลาสติกหรือตาข่ายกันวัชพืช
- ตรวจสอบระดับความลาดเอียงให้ระบายน้ำได้
- ปูหญ้าเทียม
- ตัดหญ้าให้ได้ขนาดตามพื้นที่
- วางเรียงให้รอยต่อเนียนและแนบสนิท
- ยึดหญ้าเทียมกับพื้นด้วยกาว (สำหรับพื้นเรียบ) หรือหมุด (สำหรับพื้นดิน)
- เก็บรายละเอียด
- ปัดเส้นหญ้าให้ตั้งตรง
- ใส่ทรายซิลิกาเพื่อถ่วงน้ำหนักและทำให้หญ้าดูสมจริง (ในบางรุ่น)
- ตรวจเช็คความเรียบร้อยทั้งหมด
- ดูแลรักษาหญ้าเทียมอย่างไร
- แม้หญ้าเทียมจะดูแลน้อย แต่ก็ยังควรมีการบำรุงรักษาเบื้องต้นเพื่อยืดอายุการใช้งาน เช่น
- ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นขจัดเศษใบไม้/ฝุ่น
- ล้างด้วยน้ำเปล่าเมื่อมีคราบหรือฝุ่นสะสม
- หลีกเลี่ยงวัตถุมีคมหรือของหนักตกใส่
- หากมีคราบมัน ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำแล้วขัดเบาๆ
หญ้าเทียมเหมาะกับคุณหรือไม่
หญ้าเทียมคือทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน แต่ไม่อยากวุ่นวายกับการดูแลแบบหญ้าจริง อีกทั้งยังสามารถสร้างบรรยากาศแบบ กรีนเนอรี่ วิว ที่ดูเป็นธรรมชาติ ผ่อนคลาย และสะอาดตา เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเวลา ความเรียบร้อย และความสวยงามในระยะยาว
แม้จะมีข้อเสียเรื่องความร้อนหรืออายุการใช้งาน แต่ก็สามารถบริหารจัดการได้ด้วยการเลือกหญ้าเทียมที่มีคุณภาพ และติดตั้งอย่างถูกต้อง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ “ไม่อยากรดน้ำหญ้าจริง และไม่ชอบพื้นซีเมนต์” หญ้าเทียมคือคำตอบที่ควรลอง